วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยใช้หลัก CSR ตอนที่ 1

เรืองฤทธิ์ ไชยสิงห์ ฝ่ายวิศวกรรมและเทคนิค บริษัท เอส ซี จี ซิเมนต์ จำกัด
ขอบคุณข้อมูลจาก: สารสภาวิศวกร ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนมีนาคม-เมษายน 2552

CSR หรือ Corporate Social Responsibility
หากจะกล่าวถึงคำๆ นี้ คงจะไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเพราะเป็นอีกคำหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่น้อยไปกว่ากระแสปัญหาสภาวะโลกร้อนที่ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือองค์กรอิสระ ได้ให้ความสำคัญกันเพิ่มมากขึ้น

ในอดีตแต่ละภาคธุรกิจพยายามที่จะผลิตหรือขายสินค้าโดยมุ่งหวังให้เกิดผลกำไรที่สูงที่สุด ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับชุมชนสังคมหรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่ภายนอกโครงการ เป็นผลให้มีหลายบริษัทที่ได้รับการต่อต้านหรือการไม่ยอมรับจากสังคมชุมชนที่อยู่โดยรอบ ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น จึงเป็นที่มาที่ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องมาใส่ใจประเด็นสิ่งแวดล้อมหรือสังคมกันเพิ่มมากขึ้น

จากที่มาของแนวคิด CSR แบบเดิม ได้พัฒนามาสู่แนวคิดที่ว่า "ทุกองค์กร ควรมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและพัฒนาสังคม" โดยเฉพาะภาคธุรกิจ เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีกำลังทรัพย์และความสามารถในการจัดการบริหารงานต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของประธานสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาที่ยังยืน (The World Business Council for Sustainable Development - WBCSD) ที่ระบุว่า "ธุรกิจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในสังคมที่ล้มเหลว (Business cannot succeed in a society that fails)"

CSR (ซี เอส อาร์) คืออะไร
Corporate Social Responsibility (CSR) หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า "ความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ" นั้น มีหลายหน่วยงานพยายามให้ความหมายหรือกำหนดคำนิยาม เช่น

"CSR คือ การปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการดำเนินธุรกิจโดยใช้พื้นฐานของจริยธรรมเข้ามาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปพร้อมๆ กันกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานและคุณภาพชุมชนท้องถิ่น รวมถึงสภาพสังคมโดยรวม" (จาก The World Business Council for Sustainable Development (WBCSD))

"CSR คือ การดำเนินธุรกิจภายใต้หลักจริยธรรมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่ไปกับการใส่ใจและดูแลรักษาสังมคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน"
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ติดตามตอนที่ 2 นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น